ในตอนที่แล้วเราก็ได้แนะนำ 4 พิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความเป็นชาติ และประวัติศาสตร์กันไปแล้วนะคะ คราวนี้จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศ ยืดเส้นยืดสายในมิวเซียมที่จัดแสดงหัวข้อเฉพาะดูบ้าง
ไปค่ะ ไปเริ่มกันเลยนะคะ
สำหรับตอนนี้ ขอแนะนำ ‘Evergreen Maritime Museum’ ค่ะ
Evergreen เป็นบริษัทขนส่งทางเรือบริษัทหนึ่ง ก่อนที่จะไปมิวเซียมนี้ก็ไม่เคยรู้จักเลยค่ะ จนกระทั่งกลับจากไต้หวันมา จึงเห็นว่าในประเทศไทยก็มีตู้ของ Evergreen เต็มไปหมด
ที่มิวเซียมนี้เรียกว่ารวมเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินเรือไว้อย่างจุใจสุด ๆ (แต่ไม่ใช่สากกระเบือจนเรือรบหรอกนะ เพราะว่าไม่มีสากกระเบือ ฮา) เรื่องราวที่จัดแสดงที่นี่ มีตั้งแต่ประวัติศาสตร์เรือของไต้หวันโบราณ จนพัฒนาการเรือยุโรปและเรือจีนในชุคต่าง ๆ เดินอ่านเดินดูไปได้เพลิน ๆ ก่อนเข้านิทรรศการหลักยังหันไปเห็นว่าเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ของเราก็มีแบบจำลองวางอยู่ที่นี่กับเขาด้วย
ยังมีส่วนของแกลอรีภาพวาดที่เกี่ยวกับเรือ ทั้งรูปท่าเรือ และมรสุม แต่ละภาพสื่อสารกับคนดูได้อย่างดี รวมเข้ากับการจัดแสงแล้ว รู้สึกเลยว่าทะเลก็อันตรายไม่น้อยเลย
แต่ไม่หมดเท่านั้น ‘Evergreen’ เป็นบริษัทขนส่งทางเรือทั้งที จะขาดเรื่องของเรือขนส่งสินค้าไปได้อย่างไร ตั้งแต่นี้ไปความสนุกในมิวเซียมที่จะทะยานขึ้น เพราะการใช้เกมมาประยุกต์เข้ากับมิวเซียมอย่างลงตัว
ในโซนการขนถ่ายสินค้า ก็จะมีเกมให้เราลองขนสินค้าออกจากลำเรือ โดนมีข้อแม้ก็คือห้ามทำให้เรือจม เพราะเมื่อเราเอาสินค้าออก น้ำหนักที่กดทับบนเรือในส่วนนั้นก็จะลดลงเรื่อย ๆ จนความสมดุลเสียไป เป็นต้น หรือในส่วนของการเดินเรือ ก็จะมีเกมขับเรือให้เล่นด้วยค่ะ
อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กันว่าไต้หวันเป็นเกาะที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงมาก เพราะมีการมาเยี่ยมเยือนและตั้งถิ่นฐานของคนต่างชาติไม่ต่างจากประเทศไทยเลย แล้วคนจะมาเยือนไต้หวันได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่ทางเรือ
ที่นี่ได้ผูกประวัติศาสตร์ของไต้หวัน เข้ากับเรื่องราวการค้าขาย และการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุด ก็คงจะเป็นการอพยพมาของคนจีน ซึ่งในสมัยนั้นประเทศจีนก็มีระเบียบแบบแนพอตัว ไม่ใช่ว่าใครอยากจะออกจากประเทศตรงไหนก็ทำได้ และแน่นอนว่าทะเลก็ไม่ได้ปราณีใครขนาดนั้น
ส่วนนี้มีเกมให้เราได้ลองเล่นเป็นคนจีนอพยพ ว่าจะต้องออกทางท่าเรือไหน และมาขึ้นไต้หวันที่ท่าเรือไหน .. กระซิบว่า ถ้ามาผิดท่าผิดช่วงเวลา ก็จะเจอมรสุมเรือแตกได้ อย่างที่เราเล่นเนี่ย เรือแตกไปหลายรอบเลยค่ะ
นอกจากประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องแบบอ้อม ๆ แล้ว เขาก็ไม่ลืมเล่าความเป็นเมืองท่าของที่นี่ให้ชัดยิ่งขึ้น ด้วยการให้เกมสมมติเราเป็นพ่อค้าต้องจัดเรือเอาของไปขายในที่ต่าง ๆ เพื่อทำเงินให้ได้เท่าที่กำหนด โดยจะมีคนมาเสนอสินค้ากับเรา และเราต้องเป็นคนเลือกเมืองท่าที่จะไปเอง ซึ่งตอนแรกก็ดูเหมือนเกมขายของธรรมดา ทว่ามันมีทริคอยู่ด้วยค่ะ
ทริคนั้นก็คือ เราจะต้องรู้ก่อนว่าที่ไหนมีความต้องการอะไร และในแต่ละช่วงเวลาของปี กระแสลมพัดไปทิศไหน เพราะถ้าเลือกพาไปผิดทิศ ก็จะยิ่งเดินเรือล่าช้า ถ้าไปผิดที่ก็จะทำการค้าไม่ได้เป็นต้นค่ะ
เกมในมิวเซียมนี้ยังไม่หมดเท่านี้หรอกค่ะ แต่ที่ยกมาคือประทับใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นเกมที่ไม่ได้ยากมาก และไม่ได้ใส่มาเป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น แต่เป็นการส่งเสริมความน่าสนใจของเนื้อหา และตรวจสอบว่าคนที่เล่นเข้าใจเนื้อหาประมาณหนึ่งแล้วจริงหรือเปล่า .. เรียกว่าถ้าไม่ได้อ่านคำอธิบายอะไรเลย ก็ยากที่จะชนะค่ะ แต่ถ้ารู้แล้วมันจะกลายเป็นง่ายนิดเดียว
มิวเซียมนี้มีคำอธิบายเป็นทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ คำบรรยายส่วนใหญ่ในเกมเป็นภาษาจีน แต่ก็มีคำอธิบายเกมสั้น ๆ เป็นภาษาอังกฤษให้ค่ะ
ค้าขายในอดีตแล้ว ก็ต้องมาที่การค้าขายในปัจจุบัน ระบบของเรือขนส่งสมัยใหม่ก็มีจัดแสดงไว้ด้วย ทั้งการจัดการเชื้อเพลิง และการให้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาส่งเสริมทางเดินเรือและการสื่อสาร หน้าที่ต่าง ๆ ภายในเรือ เช่น ถ้าเดิเเพลิงใหม่ขึ้น ใคนในตำแหน่งไหนมีหน้าที่อะไรบ้างเป็นต้น
ระหว่างที่กำลังเดินอยู่เพลิน ๆ ในชั้นสุดท้าย ก็มีคุณป้าพนักงานใจดีเดินมาบอกว่า “ได้เวลาปิดแล้วลูก ไว้มาใหม่นะ” อันนี้แปลเอง แต่ซอฟต์ประมาณนี้ เรารึก็ก้มดูนาฬิกา จะ 5 โมงแล้ว เดินเพลินจนลืมเวลาไปเลย ก็ขอบคุณคุณป้าเขาไป แอบเสียดายอยู่บ้างที่เดินให้จบไม่ได้ ทั้งที่เหลืออีกแค่ครึ่งชั้น แต่สักวันหนึ่งก็คงได้ไปที่นี่ใหม่แน่
สำหรับใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเรือ หรือทะเล แม้แต่ประวัติศาสตร์ หรือการค้าขายในสมัยโบราณ แนะนำว่าห้ามพลาดมิวเซียมนี้เลยนะคะ มันดีต่อใจมากจริง ๆ ค่ะ
เล่าไปเล่ามาก็ชักจะยาวซะแล้ว ยังเหลืออีก 4 ที่ให้ได้ไปกันต่อในทริปนี้
ยังไงก็ขอฝากตอนต่อ ๆ ไปไว้ด้วยนะคะ
สำหรับตอนนี้ สวัสดีค่ะ :)
Comments
Post a Comment